ความหมายของหมายเลขเสื้อ นักเตะในสนาม

ในยุคสมัยก่อนเวลามีการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ผู้เล่นที่ได้รับเลือกให้ลงสนามถึงจะได้รับเสื้อและหมายเลขตามตำแหน่งของตัวเอง และถ้านัดถัดไปไม่ได้ลงสนามก็ไม่มีหมายเลข ต่อมาเมื่อฟุตบอลสมัยใหม่ยกระดับและมีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น เลยกำหนดให้แต่ละสโมสรต้องส่งรายชื่อนักกีฬาทั้งหมดของทีมรวมทั้งหมายเลข ทำให้นักฟุตบอลทุกคนต้องมีหลายเลขประจำเสื้อ จนเกิดเป็นที่มาของหมายเลขเสื้อตั้งแต่ 1 ถึง 99 สำหรับฟุตบอลสนามใหญ่ จะมีผู้เล่นฝั่งละ 11 คน หมายความว่าภายใน 1 เกม ผู้เล่นในสนามจะมีได้สูงสุดข้างละ 11 คน ที่ได้โอกาสลงสนาม

หากผู้เล่นคนใดใส่เสื้อหมายเลข 1 ถึง 11 แสดงว่าเป็นผู้เล่นสำคัญของทีม ผู้จัดการทีมหรือโค้ชมักเลือกให้เป็น 11 ผู้เล่นชุดแรกเสมอหากย้อนกลับไปยังกีฬาฟุตบอลสมัยก่อน ที่ยังไม่มีการพัฒนาเรื่องรูปแบบสไตล์การเล่นหรือแทคติค เหมือนกับฟุตบอลในยุคสมัยใหม่ กีฬาฟุตบอลก็เหมือนกับกีฬาทั่วไป ที่อาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายนักกีฬาเป็นหลัก และรูปแบบการเล่นก็มีความคล้ายคลึงกัน เป็นรูปแบบมาตรฐานของฟุตบอลสมัยก่อน ส่วนระบบการเล่นที่นิยมในสมัยก่อน คือ 2-5-3 คือ กองหลัง 2 คน กองกลาง 3 คน และกองหน้า 5 คน เมื่อเรียงตำแหน่งจากแนวรับไปหาแนวรุกก็จะเป็นดังนี้

1.ผู้รักษาประตู 2.ฟูลแบ็ค 3.ฟูลแบ็ค 4.กองกลางฝั่งขวา 5.กองหลังตัวกลาง 6.กองกลางฝั่งซ้าย 7.ริมเส้นฝั่งขวา 8.มิดฟิลด์ตัวตรงกลาง 9.ศูนย์หน้าตัวกลางหรือหน้าเป้า 10.ศูนย์หน้าตัวใน 11.ริมเส้นฝั่งซ้าย จากรูปแบบการเล่นสไตล์นี้ จะไม่มีกลางรับคอยเชื่อมเกม นิยมเล่นกันแบบโยนยาว เมื่อแนวรับได้บอลก็จะสาดยาวไปให้ศูนย์หน้าทำประตู สลับกันรุกสลับกันรับ ใช้พละกำลังในการวิ่งขึ้น-ลง ไม่ค่อยเชื่อมเกมตรงกลางมากนัก จากนั้นก็ปรับการเล่นมาเป็นระบบ 4-4-2 เพื่อให้มีการประสานงานในแต่ละพื้นที่มากขึ้น โดยแบ่งเป็นกองหลังและกองกลางอย่างละ 4 คน และกองหน้า 2 คน

อ่านเพิ่มเติม วิเคราะห์บอล